“จ๋า” ชวิศา อินทกุล คว้าเหรียญทองให้ทัพนักกีฬายิมนาสติกไทย ส่งท้ายการแข่งขันวันสุดท้ายของกีฬาชนิดนี้ ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนามแฮนด์บอลชาย การแข่งขันแฮนด์บอลในร่วม ในการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่มหาวิทยาลัยกีฬาบั๊ก นินห์ ในเมืองบั๊ก นินห์ ประเทศเวียดนาม วันนี้เป็นการลงสนามนัดที่ของทีมชาติไทยทั้งทีมชายและหญิง โดยที่พบกับเวียดนาม เจ้าภาพทั้งคู่ข่าวแนะนำ
เฉลิมศักดิ์ อักขี ปราการหลังทีมชาติไทย พร้อมลืมความผิดหวังกับต้นสังกัด หลังตกรอบบอลถ้วย เพื่อมุ่งหน้าโชว์ผลงานในแคมป์ช้างศึก ชุดลุยฟุตบอลเอเชียน คัพ
สะวิงหนุ่มจากเมืองเก่า กล่าวว่า “โล่งใจกับผลการแข่งขัน ที่ผ่านมาพยายามตั้งใจมาตลอด เหมือนปลดล็อก ที่ผ่านมาอาจจะกดดันตัวเองมากเกินไป เป็นความรู้สึกเดิมๆ ที่เราเคยผ่านมาและทำได้อีกครั้ง เป็นสิ่งที่เราตามหามาตลอด ช่วงที่เล่นอย่างไรก็ไม่ชนะ หรือบางทีไม่มีลุ้นเลยเคยรู้สึกท้อบ้าง เพราะว่าไม่ได้ไปอยู่ในจุดเดิมที่เราเคยทำได้ แต่พยายามตั้งใจซ้อมไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือครอบครัวคอยให้กำลังใจ ทำให้เราดีขึ้น อยากจะขอบคุณครอบครัวที่ยังเชื่อมั่นและคอยสนับสนุนผมมาตลอด”“เกมวันนี้คือเสิร์ฟไม่อยู่เลย เสิร์ฟเข้ารัฟอย่างเดียว ต้องประคองมาตลอด มีที่อยู่แฟร์เวย์ก็หลุมที่ไม่ได้จับไดร์ฟเวอร์แล้วก็หลุมสุดท้าย พออยู่ในรัฟคอนโทรลลำบากเลยเล่นแค่ออนไปก่อน จริงๆ ไม่รู้สึกมั่นใจเลยจนกระทั่งน้องในก๊วนเขาพัตต์ไม่ลง ผมถึงจะมั่นในว่าผมแชมป์แล้ว ตอนพัตต์สุดท้ายจริงๆ ไลน์โอเคมากย แต่พอไปจรดพัตต์รู้สึกเหมือนว่ามันจะเบาๆนิดหนึ่ง แต่ผมพยายามปล่อยสโตรกให้นิ่งที่สุด”สำหรับครั้งนี้เจ้าภาพจัดสนามแข่งขันอยู่ใจกลางเมือง ปั่นบนถนนเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ระยะทางรอบละ 1.48 กิโลเมตร โดยแต่ละชาติจะส่งนักกีฬาแข่งขันได้ไม่เกินชาติละ 3 คน ซึ่งทางเจ้าภาพได้จัดแข่งขันด้วยการให้นักกีฬาไปสปรินต์วัดดวงกันในรอบสุดท้าย ไม่มีการสปรินต์เก็บคะแนนระหว่างการแข่งขัน
ผลปรากฏว่า รัชนกงัดประสบการณ์ที่เหนือกว่าคว้าชัยชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก 2-0 เกม 21-10 และ 21-15 ใช้เวลาไปเพียง 29 นาที ผ่านเข้าสู่รอบสองไปรอพบกับ หวัง ซียี่ นักตบลูกขนไก่สาวจีน มือ 14 ของโลก ดีกรีแชมป์เอเชียคนล่าสุด ที่รอบแรกสามารถเอาชนะ อีวอนน์ ลี นักกีฬาจากเยอรมนี 2-0 เกม 21-15, 21-12 นักแบดมินตันสาวไทย กล่าวว่า แม้เกมในนัดแรกอาจจะดูเหมือนชนะง่าย แต่จริงๆ ไม่ง่ายเลย เพราะเป็นคู่แข่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ตนได้มีการศึกษาเกมการเล่นจากวีดิโอการแข่งขันอยู่บ้าง ทำให้รู้ว่านัดนี้จะมาเจอกับคู่แข่งที่เล่นสไตล์บุก ซึ่งเจอจริงๆ โดยเฉพาะในเกม 2 ที่คู่แข่งอยู่ในฝั่งที่ตีตามลม ทำให้ลูกตีมีน้ำหนักแรง อีกทั้งคู่แข่งยังเน้นตีบุกมากขึ้นซึ่งตนเองพยายามกระตุ้นตัวเองให้เล่นตามธรรมชาติตัวเองและพยายามคุมเกมรับให้ดีขึ้น ถือว่าโชคดีที่คู่แข่งยังมีความผิดพลาดอยู่บ้างทำให้ตนสามารถเอาชนะได้นาที 115 โอกาสเป็นของไฟรบวร์กอีกครั้ง บอลกระดอนมาหา ยานิก ฮาเบเรอร์ ซัดเต็มหลังเท้าจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งไปชนคานเต็มๆนาที 117 ดานี โอลโม พยายามกระชากบอลผ่าน นิโคลัส ฮอฟเลอร์ ในเขตโทษ แล้วโดนฮอฟเลอร์เสียบล้มลง ผู้ตัดสินจึงต้องเรียกดูวีเออาร์ แต่ระหว่างนั้น เควิน คัมเปิล ที่อยู่ม้านั่งสำรองของไลป์ซิก ก็โดนใบแดงไล่ออกจากข้างสนามหลังประท้วงเกินเหตุผลการดูวีเออาร์ปรากฏว่าผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่ไฟรบวร์ก ทำให้เกมดำเนินต่อไปจนครบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 เช่นเดิม ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษปรากฏว่าไลป์ซิกที่ยิง 4 คน ไม่มีพลาดเลย ด้านไฟรบวร์กพลาดถึง 2 คน คริสเตียน กุนเตอร์ ยิงข้ามคาน และออร์เดมิน เดมิโรวิช ยิงไปชนคาน ไลป์ซิกจึงชนะ 4-2