การแข่งขันเพาะกาย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่สนาม ฮานอย สปอร์ต เทรนนิ่ง แอนด์ คอมเพ็ทติชัน เซ็นเตอร์ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เป็นการแข่งขันวันที่ 2 ชิง 4 ทอง จากประเภทเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัม, รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 75 กิโลกรัม, รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 80 กิโลกรัม, รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 85 กิโลกรัม โดย ทัพเบ่งกล้ามไทย ลงแข่งครบทั้ง 4 รุ่นข่าวแนะนำเกมนี้เจ้าถิ่นส่ง ลูคัส มูรา, ซน ฮึง-มิน และแฮร์รี เคน ลงสนาม ส่วนทีมเยือนวาง ดไวท์ แม็กนีล, แม็กซ์เวล กอร์เนต์ และแอชลีย์ บาร์นส์ นำทัพเกมในครึ่งแรกเป็น สเปอร์ส ที่พับสนามบุกใส่ทีมเยือน และมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งทว่ายังขึ้นนำไม่ได้ จนกระทั่งในช่วงทดเจ็บ ดาวินซอน ซานเชซ เตะบอลไปโดนแขนของ แอชลีย์ บาร์นส์ ในกรอบเขตโทษซึ่งหลังจากเช็กวีเออาร์แล้วผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษของ ไก่เดือยทอง
“3 เกมที่ผ่านมา เราพยายามสื่อสาร และ พูดคุยกันอยู่ตลอด สิ่งไหนที่ผิดพลาด หันหน้ามาคุยกัน ให้กำลังใจกัน เพื่อให้ทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะต้องเข้าใจว่าเราเป็นทีมที่มีเวลาฝึกซ้อมน้อย และ จนถึงตอนนี้ เรากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่า เราจะทำงานหนักกันต่อ และจะไม่ประมาทกับการเจอ สปป.ลาว แม้ว่าโอกาสเข้ารอบจะสูง แต่เราจะเล่นเพื่อชนะในเกมสุดท้าย”
สำหรับการแข่งขันครอสคันทรี รีเลย์ แต่ละทีมจะมีนักปั่นชาย 2 คน หญิง 2 คน โดยผู้ฝึกสอนจะวางแผนให้นักปั่นคนใดลงแข่งขันก่อนก็ได้ ซึ่งทีมไทยส่ง “โตมร” พูนศิริ ลงปั่นเป็นไม้แรก ตามมาด้วย “พลอย” วรินทร เป็นไม้ที่ 2 จากนั้น “ไก่” ส.ท.หญิง ศุภักษร เป็นไม้ที่ 3 และ “โดด” ส.อ.กีรติ เป็นตัวทีเด็ดไม้สุดท้าย ผลปรากฏว่า ทีมเสือภูเขาไทยเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.24.54 ชั่วโมง ได้เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของทีมมาเลเซีย เวลา 1.23.14 ชั่วโมง และเหรียญเงิน “เจ้าภาพ” เวียดนาม เวลา 1.23.48 ชั่วโมง ขณะที่เวลาต่อรอบ ปรากฏว่า ส.อ.กีรติ ทำเวลาได้ดีที่สุดในบรรดานักแข่ง 20 คน ด้วยเวลา 17.49 นาทีสรุปผลงานของทีมเสือภูเขาไทย ได้ 1 เหรียญทองจาก นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ (ดาวน์ฮิลชาย), 1 เหรียญเงินจาก จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส (ดาวน์ฮิลหญิง) และ 1 เหรียญทองแดงจาก ครอสคันทรี ทีมรีเลย์เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แข้งของสมุทรปราการ ซิตี้ โพสต์ข้อความร่ายยาวอำลาสโมสร โดยกล่าวขอบคุณแฟนบอลที่อยู่เคียงข้าง รวมทั้งผู้บริหารของทีม
สำหรับครั้งนี้ มี 4 ชาติ เข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย ไทย, มาเลเซีย, เวียดนาม และ ลาว แข่งขันแบบพบกันหมด ทีมที่ทำผลงานดีที่สุดคว้าแชมป์ไปครองทันที ซึ่ง ตะกร้อหญิงไทย ลงประเดิมสนามนัดแรกพบ สาวเวียดนาม เจ้าภาพ โดยทีม A ไทย ซึ่งประกอบไปด้วย “อุ้ม ปืนใหญ่” อติกานต์ คงแก้ว ลงเสิร์ฟ มัสยา ดวงศรี เป็นตัวชง และ เฟื่องฟ้า ประพัศรางค์ เป็นตัวทำ ช่วยกันเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ 2-1 เซ็ต 20-22, 21-11, 21-14แมตช์สุดท้ายเป็นชายคู่ “เจ้าณัฐ”ปรัชญา อิสโร และ “เจ้าแซค”ฐานทัพ สุขสำราญ ของไทย เจอกับคู่ของรังแกตและเอ็ม.ริฟกี ที่ต่างเพิ่งลงแข่งประเภทเดี่ยวให้อินโดนีเซียมาหมาดๆโดยแมตช์นี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงดวลกันสูสี จนต้องมาตัดสินกันในเซ็ตที่ 3 ซึ่งไทยขึ้นแท่นนำ 5-4 แต่โดนตีเสมอ จากนั้นขึ้นแท่นอีกรอบ 6-5 แล้วเกมต่อมาจัดการเบรกได้สำเร็จ ปรัชญา-ฐานทัพจึงชนะไป 2-1 เซ็ต 3-6, 7-5, 7-5