หลังจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย แถลงข่าวเปลี่ยนให้ มาโน โพลกิ้ง เข้ามาคุมทัพแทน “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ ในศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงปัญหาไม่สามารถเรียกนักกีฬา ชุดที่ดีที่สุดได้ เนื่องจาก โปรแกรมทับซ้อน กับ ไทยลีก และฟุตบอลถ้วย เอฟเอคัพ รวมถึง ลีกคัพข่าวแนะนำ23savage โพสต์ร่วมเชียร์ XERXIA ทีม VALORANT จากประเทศไทย ที่อยู่ระหว่างการแข่งขันรายการ Masters- Reykjavík ที่ประเทศไอซ์แลนด์
ล่าสุดหลังทราบผลประกบคู่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคลื่อนไหวผ่าน เพจ ลุงเนวิน โดยโพสต์ข้อความระบุว่า “เราจะเอาถ้วยช้าง เอฟเอคัพ มาไว้ที่ ช้าง อารีนาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สู้” ข่าวแนะนำ
จนล่าสุด คณะกรรมการโอลิมปิกอังกฤษ (บีโอเอ) ได้ประกาศว่านักกีฬาทั้ง 4 คนจะต้องคืนเหรียญเงินดังกล่าวตามคำสั่งของศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา “นี่เป็นเรื่องเศร้าอย่างแม้จริงทที่เราต้องขอเหรียญรางวัล ใบประกาศนียบัตร และเข็มกลัดโอลิมปิกคืน โดยเฉพาะจากนักกีฬาอีก 3 คนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา “อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคำตัดสินของ ซีเอเอส และเราต้องปฏิบัติตาม เหมือนกับจุดยืนของเราต่อนักกีฬาประเทศอื่นที่ละเมิดกฎของการใช้สารต้องห้าม” แอนดี อันสัน ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกอังกฤษ กล่าวโดยสื่อดังทุกสำนักรายงานตรงกันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมแต่งตั้ง เอริก เทน ฮาก เฮดโค้ช อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในการเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในซีซั่นหน้า พร้อมสามารถตกลงกันแบบปากเปล่าได้แล้วข่าวแนะนำ
ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง โอ๊ต สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มือวาง 6 ของรายการ มืออันดับ 33 ของโลก สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกมาเร่งเครื่องทำคะแนนแซงชนะ อาร์นอด์ เมอร์เคิล มืออันดับ 60 ของโลกจากฝรั่งเศส ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 19-21, 21-14, 21-13 ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 74 นาที สิทธิคมน์ ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ ลู่ กวนซู มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 25 ของโลกจากจีนเมื่อไทย(ห)ลีก หลบให้ซีเกมส์ #จากใจคนทำงาน เหตุผลความจำเป็นต่างๆ ในการขยับโปรแกรมไทยลีกนัดสุดท้ายเพื่อหลบทางให้กับการแข่งขันซีเกมส์ผมได้อธิบายไปครบถ้วนแล้ว รวมถึงผลกระทบทั้งลีกและการเก็บตัวของทีมชาติไทยชุดใหญ่และชุดอายุ 23 ปี ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมก่อนจะไปแข่งรายการ “ชิงแชมป์ทวีปเอเชีย” จะกระทบอย่างไร ผมก็ได้อธิบายไปแล้ว เมื่อตัดสินใจแบบนี้ ก็ต้องเดินหน้า…ถูก-ผิด-ชอบ-ไม่ชอบ คงต้องใช้เวลาในการตัดสิน สิ่งที่ยังไม่ได้พูด(ฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่) และอยากจะชวนแลกเปลี่ยนคือการตั้งเป้าหมายและความสำคัญของ “ซีเกมส์” ผมเข้าใจความคาดหวังของหลายฝ่ายที่มีต่อเหรียญทองของทีมฟุตบอลไทยในซีเกมส์ มันคือเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ และความคาดหวังนั้นเองคือสิ่งที่ต้องแบกอยู่บนบ่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และนั่นคือแรงกดดันที่มีต่อผู้จัดการทีมชาติไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความคาดหวังต่อเหรียญทองเหรียญนี้(ของใครบางคน)ยิ่งใหญ่ราวกับได้ไปแข่งฟุตบอลโลก … ถ้าเป็นสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ผมก็คงจะเห็นด้วย แต่มันไม่ควรจะเอามาเป็นความหวังของฟุตบอลทีมชาติไทยในโลกของฟุตบอลสมัยนี้… สมัยที่มี FIFA DAY เป็นตัวกำหนดการแข่งขันในระดับสากลของทีมชาติแต่ละประเทศ สมัยที่การจัดลำดับ FIFA RANKING จะถูกคิดคะแนนต่อเมื่อเข้าเกณท์ระดับ FIFA ‘A Match’ เท่านั้น สมัยที่กีฬาฟุตบอลของประเทศกำลังยกระดับและก้าวไปสู่การเป็น ‘กีฬาอาชีพ’ อย่างเต็มตัว แต่เรากลับก้าวข้ามไม่พ้น ‘กับดักความสำเร็จ’ ของตัวเอง เรายังคงมีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆเฉพาะหน้า และตั้งให้มันเป็นเป้าหมายที่แสนยิ่งใหญ่ ถ้าเรายังก้าวไม่พ้นจากเวทีภูมิภาคเราจะไม่มีวันก้าวไปสู่เวทีระดับสากลได้ ซีเกมส์ควรจะเป็นเวทีที่เอาไว้สร้างดาวรุ่งดวงใหม่ สร้างระบบ สร้างประสบการณ์ เสริมกระดูกให้เยาวชนทีมชาติไทยก่อนจะก้าวไปสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต เราจะภูมิใจกว่าไหม หากดาวรุ่งของเราไปสู้กับทีมชาติ ประเทศอื่นๆได้อย่างสมศักดิ์ศรี ?? เราจะได้ประโยชน์มากกว่าไหม หากมีนักเตะหน้าใหม่แจ้งเกิดได้อีก 3-4 คนจากเวทีนี้?? ความสำเร็จของเราอยู่ที่การชูถ้วย คว้าแชมป์ ได้เหรียญทองเท่านั้นนะหรือ? ถึงเวลาหรือยังที่จะมาร่วมกันออกแบบว่า ‘ความสำเร็จ’ หน้าตามันควรจะเป็นอย่างไร? มาจัดลำดับความสำคัญเสียใหม่เพื่อจะก้าวข้ามระดับภูมิภาค ไปสู่ระดับเอเชียและก้าวไปเวทีระดับโลกกันจริงๆเสียที “ความสำเร็จของเราจะไม่มีวันยิ่งใหญ่ขึ้นได้ ถ้าเรายังยึดติดกับความสำเร็จเล็กๆแบบเดิม”